การร่วมมือกันระหว่างกองบัญชาการตำรวจนครบาลกับกล้องวงจรปิด FUJIKO และ KENPRO |
จากสถิติอาชญากรรม การรับแจ้งทางสายด่วน 191 แต่ละปี มีจำนวนการแจ้งมากกว่า 250,000 ครั้ง และมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงและซับซ้อนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในจำนวนนี้มีคดีอยู่จำนวนมากที่ไม่พบพยาน หลักฐานในที่เกิดเหตุ ทำให้ยากต่อการจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้แม้จะมีการ ติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ในกรุงเทพมหานครอย่างแพร่หลาย แต่ด้วยการดำเนินการที่ไม่เป็นระบบ และไม่มีศูนย์ปฎิบัติการแบบเบ็ดเสร็จ การใช้งานยังไม่ครอบคุมทุกระบบรวมถึงบริการติดตั้งกล้องวงจรปิดราคาถูกซึ่งมีจำนวนน้อยไม่ เพียงพอ เป็นเหตุให้การป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ไม่ได้ผลเท่าที่ควร เพื่อรักษาความปลอดภัยแก่ชีวิตและ ทรัพย์สินของประชาชน และการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.คํารณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะ CIO (Chief Information Officer) ด้านเทคโนโลยี ของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ร่วมกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยบริษัท TOT จัดทำ(มหาชน) จัดทำ โครงการนวัตกรรมศูนย์สั่งการกล้องทีวีวงจรปิด เพื่อป้องกันปราบปราม อาชญากรรมแบบเบ็ดเสร็จ หรือ Miracle Eyes ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในการใช้ระบบ กล้องโทรทัศน์วงจรปิดติดตั้งทั่วกรุงเทพมหานคร
โครงการนวัตกรรมศูนย์สั่งการกล้องทีวีวงจรปิด เพื่อป้องกันปราบปรามอาชญากรรมแบบเบ็ดเสร็จ หรือ Miracle Eyes มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม สร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนและสังคม รวมถึงเป็นเครื่องมือ สนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในด้านการสืบสวนคดีอาญา ด้านการจราจร การควบคุมอุบัติเหตุจราจร ตลอดจนการหาพยานหลักฐานต่างๆได้มีประสิทธิภาพ และทันท่วงที ด้วยการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดทั่วกรุงเทพมหานคร โดยการนำระบบเทคโนโลยีสมัยใหม่ ของ TOT ซึ่งมีโครงข่ายสื่อสารโทรคมนาคมที่ทันสมัย และครอบคุมมากที่สุดของประเทศ มาประสานเข้ากับทำงานของระบบรับแจ้งเหตุ และขอความช่วยเหลือฉุกเฉินของตำรวจนครบาล โดยสถานีตำรวจนครบาล ทั้ง 88 แห่ง ทั่ว กรุงเทพฯ จะติดตั้งระบบศูนย์สั่งการระบบทีวีวงจรปิดและมีเจ้าหน้าที่คอมเฝ้าระวังพื้นที่ ที่เข้าร่วมโครงการจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ ผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ที่แสดงภาพสดจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด หรือ CCTV ตามสถานที่ต่างๆ ที่ประชาชนหรือผู้ประกอบการรับติดตั้งกล้องวงจรปิดแบบไร้สายไว้
ซึ่งช่วยเสริมประสิทธิภาพงานด้านการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามสถานีตำรวจนครบาลทั้ง 88 แห่ง โดยจะเชื่อม โยงมารวมไว้ ที่ศุนย์กลางการควบคุมสั่งการปฎิบัติ การที่กองบังคับการตำรวจจราจร เพื่อประโยชน์ ในการประสานการปฎิบัติระหว่างหน่วยงานต่างๆ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับระบบการทำงาน ของ Miracle Eyes ผ่านอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ที่ความเร็วประมาณ 2-3 MB ขึ้นไปโดยโครงการ นำร่องจะสามารถให้บริการ 2 ระบบคือ 1. ระบบแจ้งเหตุเพื่อให้แจ้งเหตุต่อศูนย์สั่งการได้ทันทีแบบ Real-time โดยเมื่อมีเหตุผิดปกติประชาชนจะสามารถกดปุ่มขอความช่วยเหลือ ซึ่งระบบจะส่งสัญญาณไปยังศูนย์ ที่กองบังคับการตำรวจจราจร โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะตรวจสอบเหตุการณ์จากนั้นจะแจ้งไปยังสถานีตำรวจในเขตที่รับผิดชอบ เพื่อแจ้งหน้าที่ตำรวจสายตรวจซึ่งอยุใกล้บริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อให้สามารถระงับเหตุได้อย่างรวดเร็ว ระบบแจ้งเตือนหรือระบบ LEASE LINE เพื่อดูแลความปลอดภัย ในขณะที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ เป็นระบบตรวจจับการเคลื่อนไหวอัตโนมัติ ด้วยบริการติดตั้งกล้องวงจรปิดแบบไร้สาย ซึ่งจะมี การตั้งค่าภาพปกติไว้ เมื่อมีสิ่งผิดปกติ หรือมีสิ่งบุกลุกที่แตกต่างจากภาพปกติ ระบบจะทำการส่งสัญญาณไปยังศูนย์ ที่กองบังคับการตำรวจจราจร โดยเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเหตุการณ์และเมื่อมีเหตุต้องสงสัยก็จะแจ้งไปยังสถานีตำรวจที่รับผิดชอบ เพื่อแจ้งหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ที่อยู่ใกล้บริเวณที่เกิดเหตุ พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจจะแจ้งไปยังโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเจ้าของบ้าน นับเป็นความสำเร็จ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งมีภารกิจสำคัญในการ ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม สร้างความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินให้กับประชาชน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด และให้มีประสิทธิภาพสูงสุดในการรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน และสังคม วันนี้ โครงการ Miracle Eyes หนึ่งในโครงการที่จะสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล ในการนำเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัย มาพัฒนา เพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม เพื่อสร้างกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ อย่างยั่งยืนตลอดไป "อยู่สุขเถิดประชา....ตำรวจข้าจะคุ้มภัย"